อนุทินที่ 4
1. เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
พ.ศ. 2545
ตอบ สาเหตุที่ต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ก็เพราะกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้บิดา มารดา หรือผุปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปี โดยให้เด็กซึ่งมีอายุอย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ จึงสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น
ตอบ สาเหตุที่ต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ก็เพราะกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้บิดา มารดา หรือผุปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปี โดยให้เด็กซึ่งมีอายุอย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ จึงสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น
2.ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
พ.ศ. 2545 อย่างไร
ก. ผู้ปกครอง ข.เด็ก ค.การศึกษาภาคบังคับ ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ก. ผู้ปกครอง ข.เด็ก ค.การศึกษาภาคบังคับ ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตอบ ผู้ปกครอง หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน
เด็ก หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก
เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
การศึกษาภาคบังคับ หมายความว่า
การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษา
ขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด
3. กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร
และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
ตอบ กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษโดยปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท แล้วให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผัน ให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
ตอบ กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษโดยปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท แล้วให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผัน ให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
4. ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่าน
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด 21
ข้อ
ตอบ สรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารการกระทรวง
ศึกษาธิการคือ พระราชบัญญัติได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการต่างๆ
องค์กรต่าง ๆ ในการบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ โดยการกำหนดจำนวนกรรมการ
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา การเลือกประธานกรรมการและกรรมการ
วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
การกำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเพื่อให้การบริหารราชการระทรวงศึกษาธิการมีความสอดคล้องตามพระราชบัญญัติที่ได้กำหนดไว้
1. อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฎหมายฉบับใด
ตอบ ค พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
2. ข้อใด คืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ง ถูกทุกข้อ
3. การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น 3 ส่วนคือข้อใด
ตอบ ง ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาของรัฐระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
ตอบ ค พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
2. ข้อใด คืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ง ถูกทุกข้อ
3. การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น 3 ส่วนคือข้อใด
ตอบ ง ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาของรัฐระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
4. การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการให้คำนึงถึงข้อใด
ตอบ ง. ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง
ตอบ ง. ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง
5. บทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ที่จะต้องดำเนินการตาม พรบ. นี้คือข้อใด
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
6. ข้อใดคือการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
7. ส่วนราชการส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการตามข้อใดที่ไม่เป็นนิติบุคคล
ตอบ ก. สำนักงานรัฐมนตรี
ตอบ ก. สำนักงานรัฐมนตรี
8. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
9. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา
ตอบ ค. ประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอบ ค. ประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
10. ใครเป็นประธานคณะกรรมการสภาการศึกษา
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
11.
คณะกรรมการชุดใดที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ใน พรบ. นี้
ตอบ ก. คณะกรรมการสภาการศึกษา
ตอบ ก. คณะกรรมการสภาการศึกษา
12.
ใครทำหน้าที่รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
13. บุคคลใดต่อไปนี้เป็นข้าราชการการเมือง
ตอบ ง. ข้อ ข และ ค ถูก
ตอบ ง. ข้อ ข และ ค ถูก
14.
ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ง. ติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ
ตอบ ง. ติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ
15.
หน่วยงานระดับใดสามารถมีผู้ตรวจราชการได้
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
16. ข้อใด
คือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ตอบ ค. ศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมิน ผลการบริหารและการดำเนินงาน
ตอบ ค. ศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมิน ผลการบริหารและการดำเนินงาน
17. ข้อใด
คือบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
18. ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการ
ศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาได้หน่วยงานใดจะเป็นผู้จัด
ตอบ ก. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ก. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
19.
หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานใดได้บ้าง หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดได้
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
20.
ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข
21. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ตอบ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น