วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อนุทินที่ 3

แบบฝึกหัดทบทวน  อนุทินที่  3
เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้วจงตอบคาถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง


1. นักศึกษาอธิบายค่านิยามต่อไปนี้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.. 2542 
ตอบ     . การศึกษา   การศึกษาหมายความว่ากระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึกการอบรมการสืบสานทางวัฒนธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการการสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เรียนรู้เพื่ออะไรตอบคือเพื่อความเจริญของบุคคลและสังคม เรียนรู้อย่างไรตอบคือเรียนรู้โดยวิธีการต่างๆเช่นถ่ายทอดความรู้ฝึกอบรมสั่งสอนสังเกตวิเคราะห์สร้างองค์ความรู้สืบสานสร้างสรรค์จากบุคคลสื่อปัจจัยและสภาพแวดล้อม

           ข. การศึกษาขั้นพื้นฐาน  การศึกษาขั้นพื้นฐานหมายความว่าการศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
 “สถานศึกษาขั้นพื้นฐานหมายความว่าสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน

            ค. การศึกษาตลอดชีวิต   การศึกษาตลอดชีวิตหมายความว่าการศึกษาที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตโดยเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย

           ง. มาตรฐานการศึกษา   “มาตรฐานการศึกษาหมายความว่าข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะคุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่งและเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสาหรับส่งเสริมและกากับดูแลการตรวจสอบการประเมินและการประกันคุณภาพทางการศึกษา

           จ. การประกันคุณภาพภายใน  การประกันคุณภาพภายในหมายความว่าการประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายในโดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเองหรือหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กากับดูแลสถานศึกษานั้น

          ช. การประกันคุณภาพภายนอก  การประกันคุณภาพภายนอกหมายความว่าการประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายนอกโดยสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สานักงานดังกล่าวรองรับเพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษา

           ซ. ผู้สอน  ผู้สอนหมายความว่าครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ

           ฌ. ครู   “ครูหมายความว่าบุคลากรวิชาชีพซึ่งทาหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ซึงอธิบายสมานคนได (2543,29) กล่าวว่าครูมีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ
1. ทาหน้าที่หลักด้านการเรียนการสอน
2. ทาหน้าที่นั้นในสถานศึกษา

            ญ. คณาจารย์  คณาจารย์หมายความว่าบุคลากรซึ่งทาหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับปริญญาของรัฐและเอกชน

            ฐ.ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาหมายความว่าบุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่งทั้งของรัฐและเอกชน

           ฒ.ผู้บริหารการศึกษา   “ผู้บริหารการศึกษาหมายความว่าบุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป

           ณ. บุคลากรทางการศึกษา  “บุคลากรทางการศึกษาหมายความว่าผู้บริหารสถานศึกษาผู้บริหารสถานศึกษารวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทาหน้าที่ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอนการนิเทศและการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ



2. ความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษานี้อย่างไรบ้างให้อธิบาย
ตอบ  การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจสติปัญญาความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข



3. หลักการจัดการศึกษาประกอบด้วยอะไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ   มี 3 ประการคือ
(1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสาหรับประชาชน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง



4. การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนดมีอะไรบ้าง
ตอบ  (1) มีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
(2) มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาสถานศึกษาและองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น
(3) มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาและจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
(4) มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาและการพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
(5) ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่างๆมาใช้ในการจัดการศึกษา
(6) การมีส่วนร่วมของบุคคลครอบครัวชุมชนองค์กรชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอกชนองค์กรเอกชนองค์กรวิชาชีพสถาบันศาสนาสถานประกอบการและสถาบันสังคมอื่น



5. สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษาที่กำหนดไว้ในกฎหมายมีอะไรบ้าง
ตอบ 1. การจัดการศึกษาต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปีอย่างทั่วถึง มีคุณภาพ และไม่เก็บค่าใช้จ่าย  
2. บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกายจิตใจสติปัญญาอารมณ์สังคมผู้ด้อยโอกาสและผู้มีความสามารถพิเศษมีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ
3. พ่อแม่ผู้ปกครองบุคคลครอบครัวองค์กรชุมชนองค์กรเอกชนสถานประกอบการสถาบันศาสนาและสถาบันอื่นๆมีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่บุตรหลานของตนหรือบุคคลทั่วไปผู้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานดังกล่าวมีสิทธิได้รับการสนับสนุนและเงินอุดหนุนจากรัฐรวมทั้งได้รับการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษีตามที่กฎหมายกำหนด



6. ระบบการศึกษามีกี่รูปแบบแต่ละรูปแบบมีอะไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ     1. การจัดการศึกษามี 3 รูปแบบคือการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบการศึกษา
ตามอัธยาศัยสถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถจัดการศึกษาได้ 3 รูปแบบหรือรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบนี้สามารถเทียบโอนกันได้
            2. การจัดการศึกษาแบ่งเป็น 2 ระดับคือการศึกษาขั้นพื้นฐานการศึกษาระดับอุดมศึกษาสาหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานจะเรียกชื่อเป็นประถมศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรืออย่างอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวงการศึกษาระดับอุดมศึกษามี 2 ระดับคือระดับปริญญาและต่ำกว่าปริญญา
           3. การศึกษาภาคบังคับมีกำหนด 9 ปีเด็กอายุ 6 ขวบต้องเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงอายุ 15 ขวบเว้นแต่สอบได้ชั้นปีที่ 9 ของการศึกษาภาคบังคับหลักเกณฑ์การนับอายุให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
           4. การจัดการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐานให้จัดในสถานศึกษา 3 ประเภทคือ (1) สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (2) โรงเรียน (3) ศูนย์การเรียน
           5. การอาชีวศึกษาให้จัดในสถานศึกษาของรัฐและเอกชนรวมทั้งสถานประกอบการและองค์กรหรือหน่วยงานอื่นตามกฎหมายว่าด้วยอาชีวศึกษา
            6. กระทรวงทบวงกรมรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐอาจจัดการศึกษาเฉพาะทางตามความต้องการและความชำนาญของหน่วยงานโดยคำนึงถึงนโยบายและมาตรฐานการศึกษาของชาติทั้งนี้ตามทหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง


7. การจัดการศึกษาในระบบมีอะไรบ้างจงอธิบาย
ตอบ   การศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน ที่สำคัญ ในการดำเนินกิจกรรมทางการศึกษานั้น เกิดขึ้นทั้งที่ห้องเรียน รวมถึงการเรียนรู้นอกห้องเรียน อาทิ ที่บ้าน หรือการเรียนรู้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยยึดถือเอาห้องเรียนเป็นฐานกลางของการจัดการศึกษา การศึกษาจึงเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาคน และการที่จะพัฒนาคนให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการนั้นต้องอาศัยผลรวมของกระบวนการที่มีความ สัมพันธ์กัน คือ กระบวนการบริหารจัดการ กระบวนการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 



8. สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลเป็นอย่างไร
ตอบ     กำหนดให้กระทรวงกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษา  ทั้งด้านวิชาการ  งบประมาณ การบริหารงานบุคคลและการบริหารทั่วไป ไปยังคณะกรรมการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในเขตพื้นที่โดยตรง  การกระจายอำนาจดังกล่าว  จะทำให้สถานศึกษาคล่องตัว มีอิสระในการบริหารจัดการ  ตามหลักของการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน   ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานและสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  


9. แนวทางการจัดการศึกษามีหลักยึดอะไรบ้าง
ตอบ  แนวการจัดการศึกษาเป็นหัวใจของการปฏิรูปการศึกษาซึ่งถือว่าหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้มีสาระสำคัญดังนี้
1. ยึดหลักว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ให้ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุดและต้องให้แต่ละคนสามารถพัฒนาตามความถนัดความสนใจและเต็มศักยภาพของเขา
2. เนื้อหาสาระของการศึกษาทุกระบบทุกรูปแบบต้องเน้นความรู้คู่คุณธรรมและกระบวนการเรียนรู้โดยบูรณาการ (ผสมผสาน) ตามความเหมาะสมของระดับการศึกษา
3. เนื้อหาสาระของวิชาความรู้ที่ต้องไปกำหนดหลักสูตรและจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยเรื่องต่างๆต่อไปนี้
            (1) ความรู้เกี่ยวกับตนเองและความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคมได้แก่ครอบครัวชุมชนชาติและสังคมโลกรวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสังคมไทยและระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
           (2) ความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมทั้งความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์เรื่องการจัดการการบำรุงรักษาและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน
          (3) ความรู้เกี่ยวกับศาสนาศิลปะวัฒนธรรมการกีฬาภูมิปัญญาไทยและการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา
          (4) ความรู้และทักษะด้านคณิตศาสตร์และด้านภาษาเน้นการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
          (5) ความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพและการดารงชีวิตอย่างมีความสุข



10. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่กำหนดให้ครูผู้บริหารสถานศึกษาผู้บริหารการศึกษาทั้งรัฐและเอกชนจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
ตอบ    เห็นด้วย เพราะถ้าหากเราไม่มีใบประกอบวิชาชีพก็จะทำเราประกอบอาชีพอย่างไม่น่าเชื่อถือก็เหมือนกับหมอถ้าไม่มีใบรับรองการเปิดคลีนิกคนป่วยก็จะไม่กล้าเข้ารับการรักษาโรค เช่นเดียวกับครู หรือ ผู้บริหาร ถ้าไม่มีใบประกอบวิชาชีพเราก็ไม่สามารถประกอบอาชีพได้



11. มีวิธีการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่นของท่านได้อย่างบ้าง
ตอบ   ต้องคำนึงก่อนว่าในท้องถิ่นของเรามีทรัพยากรอะไรที่สามารถนำมาปรับใช้กับการเรียนการสอนได้และต้องให้ผู้ปกครองหรือประชาชนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างครู  ผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อนำข้อติชมและข้อเสนอเหล่านั้นมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและแก้ไขเพื่อให้ระบบการศึกษาในท้องถิ่นของเรามีเอกลักษณ์และทันต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนทันต่อโลกและเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน




12. การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามีวิธีการพัฒนาได้อย่างไร
ตอบ   ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของมนุษย์  ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาแบบเรียนตาราหนังสือทางวิชาการสื่อสิ่งพิมพ์อื่นวัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีอื่นโดยเร่งรัดพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตจัดให้มีเงินสนับสนุนการผลิตและมีการให้แรงจูงใจแก่ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาทั้งนี้โดยเปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม  ให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพื่อให้มีความรู้ความสามารถและทักษะในการผลิตรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมีคุณภาพและประสิทธิภาพ  ให้ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในโอกาสแรกที่ทาได้เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น